อาหาร แพรีด็อก (Prairie Dog)

BY HELPANIMAL · PUBLISHED MAY 26, 2016 · UPDATED JUNE 3, 2016

ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารต่อไปนี้ เป็นข้อมูลที่ได้มาจากสัตวแพทย์และนักวิชาการที่ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับแพร์รี่ด็อกโดยเฉพาะชาวอังกฤษนะคะซึ่งหากใครมีหนังสือแพร์รี่ที่เป็นภาษาอังกฤษ ยืนยันว่าข้อมูลในหนังสือนั้นไม่ถูกต้องทั้งหมด

กรุณาใช้สติในการอ่าน เพราะเชื่อว่านี่เป็นข้อมูลใหม่ที่น่าตกใจแน่นอน.. ใครมีข้อโต้แย้งไหนสามารถพูดได้ค่ะ เราจะนำข้อมูลวิชาการฉบับเต็มมาคุยกับคุณค่ะข้อมูลต่างๆของแพร์รี่ที่เรารู้กันนั้น ส่วนมากมาจากประสบการณ์ หรือการเปรียบเทียบข้อมูลสัตว์เลี้ยงใกล้เคียงอื่นๆที่เราคุ้นเคยแต่นี่คือข้อมูล “สำหรับแพร์รี่ด็อก” โดยเฉพาะ

– สำหรับแพร์รี่ด็อกอายุต่ำกว่า 10 สัปดาห์ เน้นโปรตีนเป็นพิเศษซึ่งได้จากนมแม่เมื่อยังเป็นลูกอ่อน หลังจากหย่านมนั้นสามารถให้เป็นอาหารเม็ด(เนื่องจากมีแหล่งโปรตีน) ปริมาณ 15% หนอน(อบแห้งหรือสด 5%) อีก 80% คือหญ้าทิมโมทีหรือหญ้าสดได้บ้าง- สำหรับแพร์รี่ด็อกอายุมากกว่า 10 สัปดาห์ขึ้นไปยังมีความต้องการโปรตีนอยู่บ้าง สามารถให้อาหารเม็ดได้ 15% หญ้าทิมโมที(หรือหญ้าสดได้บ้าง) 80% อีก 5% จะกล่าวภายหลัง- สำหรับแพร์รี่ด็อกอยู่ในช่วงต้องควบคุมน้ำหนัก (อัตราส่วนน้ำหนักเฉลี่ยต่ออายุจะกล่าวภายหลัง)หญ้าทิมโมที(หรือหญ้าสดได้บ้าง) 95%

อีก 5% สำหรับ แพร์รี่ด็อกอายุ 10 สัปดาห์ขึ้นไปและแพร์รี่ด็อกควบคุมน้ำหนัก (เป็นส่วนที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งตาคอยจะให้ลูกๆกินเหลือเกิน)ที่สามารถให้กินได้ มีดังนี้แครอท ,หัวมัน ,Dandelion Greens(ไม่รู้จักเหมือนกัน -*-) ,ฟักทอง ,ผักกาดหอมหรือผักสลัด (แต่ไม่ใช่กระหล่ำปลี ผักกาดแก้ว หรือผักกาดขาว) ,ต้นข้าวสาลี , เมล็ดข้าวเปลือก, หนอน(สดหรืออบแห้ง) ,อาหารเม็ด(สำหรับแพร์รี่ควบคุมน้ำหนัก)ปล. เราต้องจำกัดปริมาณน้ำจากผักเหล่านี้ แต่ไม่ต้องจำกัดปริมาณน้ำสะอาดเป็นความคิดที่ผิดว่าแพร์รี่ด็อกไม่ต้องกินน้ำก็ได้ ยิ่งเรามีอาหารเม็ดเป็นส่วนหนึ่งของอาหาร น้ำสะอาดจึงมีความจำเป็นอย่างมาก

**อาหาร “ต้องห้าม” สำหรับแพร์รี่ด็อก…**
-เมล็ดธัญพืชสำหรับนก เช่น พวกข้าวฟ่างสีต่างๆ ,อาหารหนูตะเภา ,ถั่ว ไม่ว่าจะเป็นลิสง อัลม่อน เมล็ดทานตะวันต้องห้ามเพราะ..”ร่างกายของแพร์รี่ด็อก ไม่สามารถดูดซึมไขมันได้ !!”
-ผลไม้ยอดนิยมเช่น แอปเปิ้ล องุ่น กล้วย เค้าใช้คำว่า “None of that is allowed”ผลไม้เบสิกขนาดนี้ยังต้องห้าม ก็ไม่ต้องใจดีหาผลไม้พิสดารอย่างอื่นมาให้เค้ากินนะคะ
-ผักยอดนิยม ถั่วฝักยาว แตงกวา ผักบุ้ง “None of that is allowed”**
-อาหารเสริมเจ้าปัญหา นมผงทดแทน ซีรีแลค “None of that is allowed” ไม่มีช่วงอายุไหนเลยที่เค้าแนะนำให้กิน**
-หญ้าอัลฟาฟ่าเจ้าปัญหา หลายคนถกเถียงกันมานาน ขอยืนยันอีกครั้งตรงนี้ ว่าอัลฟาฟ่าไม่ดีต่อแพร์รี่ด็อกมากๆทุกช่วงอายุ ไม่มีการแนะนำให้กินเค้าใช้คำว่า “Alfalfa it is a type of grass they can never have it. it’s very bad and too calorific for them”แปลตามนี้คือ “อัลฟาฟ่าเป็นหญ้าที่ไม่สามารถให้กินได้เลย มันแย่สำหรับแพร์รี่ด็อกมาก และมันทำให้ร้อนด้วย”(ได้คำตอบนี้มา เพราะโต้แย้งว่าสัตวแพทย์และผู้เลี้ยงบางคนที่นี่บอกว่าให้เน้นอัลฟาฟ่า โดยเฉพาะในวัยเด็ก)

การให้หญ้าทิมโมธีนั้น ควรเปลี่ยนใหม่ทุกวัน เราอาจเห็น่ามันยังมีเหลือเยอะอยู่เลย แต่ความจริงแล้วแพร์รี่ด็อกไม่ได้กินทุกส่วนของหญ้าจะกินเฉพาะบางส่วนเท่านั้น หญ้าที่เห็นว่าเหลืออยู่นั้น คือส่วนที่เค้าไม่กินแล้ว มันอาจจะเปลือง แต่เป็นสิ่งที่ควรทำอย่าเสียดายเลยค่ะ ซื้ออย่างอื่นไร้สาระให้เค้ากิน ยังแพงกว่านี้อีกจริงมั้ยยย

เรามักจะขุนให้เค้าอ้วน และให้กินของตามใจผู้เลี้ยง.. แต่อาหารที่ควรให้เค้าจริงๆนั้น ทุกอย่าง ต้องไม่ทำให้อ้วนเพราะตามธรรมชาติของเค้า อยู่ในโพรง นั่งๆนอนๆ ออกจากโพรง3 ก้าว มากินหญ้า แล้วก็นั่งๆนอนๆ ยิ่งเราเอามาเป็นสัตว์เลี้ยง..ชีวิตนี้เค้าอ้วนอยู่แล้วโดยที่คุณไม่ต้องไปบำรุงเค้าเลย!สิ่งที่ควรต้องระวังคือเรื่องน้ำหนักที่จะเกินต่างหาก! หากแพร์รี่มีน้ำหนักเกิน ส่งผลต่อไขข้อ ตับ ไต หัวใจ ปอดข้อมูลที่เรามีและเข้าใจมาตลอดคือ แพร์รี่ด็อกมีอายุเฉลี่ย 5-8 ปี แต่ความจริงแล้ว ถ้าเราให้อาหารเค้าอย่างถูกต้องและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในมาตรฐาน เค้าสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 15 ปีเลยทีเดียว..

การให้อาหารมั่วซั่วแบบผิดๆ บ้างกินแล้วส่งผลทันที บ้างกินแล้วยังไม่ส่งผลทันตาคุณก็เลยชะล่าใจให้เค้ากินต่อไป..ผลร้ายทั้งหมดของมันจะส่งผลเมื่อแพร์รี่อายุ 4-5 ปี แล้วเค้าก็อาจจะอยู่กับคุณได้แค่นั้น

คุณมีสิทธิที่จะรับรู้ข้อมูลจากทุกด้าน คุณจะเชื่อจะทำตามหรือไม่ก็สุดแล้วแต่แต่นี่คือสิ่งที่เราพยายามหามาให้เกิดประโยชน์จริงๆ หวังให้แพร์รี่ของคุณมีชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพแข็งแรงเพื่อเราจะได้จัดมีตติ้ง ฉลองแพร์รี่ด็อกอายุครบ 15 ปีด้วยกัน… คลิ้กที่นี่

เลือกชื้อแพรี่ด๊อก

อยากแชร์ประสบการณ์เลี้ยงแพรี่ด๊อกให้กับคนที่คิดจะเลี้ยง หรือมือใหม่หัดเลี้ยง เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ หรือช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง อาจจะยาวนิดนึงนะคะ ^^
1.    เมื่อเลือกซื้อ
ต้องออกตัวก่อนว่าไม่เคยรู้จักแพรี่ด๊อกเลย ที่บ้านเลี้ยงกระรอกกับกระต่ายอยู่ จนวันนึงได้ไปเจอแพรี่ด๊อกที่ร้านขายอาหารสัตว์เจ้าประจำ เพราะไปทักผิดนึกว่าเขาเลี้ยงกระรอกแดงเหมือนกัน ก็หน้าแตกว่ามันไม่ใช่กระรอกมันคือแพรี่ด๊อก เลยหาข้อมูลว่ามันคือตัวอะไร เพราะแฟนอยากได้มาก มันน่ารักกว่ากระรอกเยอะเลย แต่ก็ทักท้วงไม่อยากให้ซื้อเพราะข้อมูลที่มีคือแพรี่ขี้โมโห ชอบอาละวาด และแพงมาก แต่สุดท้ายไปส่งเพื่อนซื้อของที่กทม. เราเลยคิดแอบแว๊บไปดูตัวจริงของแพรี่ที่จตุจักรกัน เอาให้รู้ไปเลยว่าเป็นยังไง ตอนนั้นเดือน พ.ค. จตุจักรมีหลายร้านมากที่ขาย แต่เจ้าของร้านดูไม่เป็นมิตรเลย บางร้านมีตัวเชื่องๆก็ถูกจองไปหมด จนมาเจอร้านตู้กระจกห้องแอร์ คนขายเป็นมิตรแนะนำดีมาก และเลือกตัวแข็งแรงๆให้ดู ทนความน่ารักไม่ไหว ซื้อมา 1 ตัวจนได้ เป็นตัวผู้ และผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ก็ไปซื้อตัวเมียเพิ่มอีก 1 ตัว เพราะคิดว่าจะได้เป็นเพื่อนกัน จะได้ไม่เหงา และมโนเองว่าคงจะมีโอกาศได้ลูกแพรี่กะเขาบ้าง

อ้วนกลมดิ๊ก ถูกใจ

14 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

2.    เมื่อเริ่มเลี้ยง
เมื่อพาแพรี่ตัวแรกเดินทางจากกทม.สู่บ้านที่ชลบุรี ด้วยความที่ไม่เคยเลี้ยงก็เชื่อตามคนขายว่าให้อาหารกระต่ายได้ เลยให้อาหารกระต่ายตามที่บ้านเลี้ยงอยู่ เป็นอาหารกระต่ายที่มีขายในโลตัส ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ Smart Heart น้องตัวแรกที่ได้มาไม่สามารถจับเล่นได้มาก น้องไม่ยอมให้จับเลย ได้แค่ลูบๆผ่านกรง แต่น้องไม่ได้ดุร้ายอะไร แค่กระโดดหนีมือเราไปมา คนขายบอกว่าให้ใช้เวลากับเขาเยอะๆ เอาเสื้อเราใส่กรงไว้ให้เขาจำกลิ่น แต่เขาก็ไม่เชื่องอะไรมาก แอบอิจฉาคนเลี้ยงอื่นที่เห็นในเฟส ดูเด็กๆเขาน่ารักขี้อ้อนมาก เราเลยมโนด้วยอะไรไม่รู้ว่าเขาคงเหงา เลยไปซื้อเพิ่มอีก 1 ตัว แต่ตอนนี้มีข้อมูลว่า ถ้ามีตัวใหม่ต้องเทียบกรงให้คุ้นกันก่อนค่อยปล่อยรวมกัน และควรเลี้ยงเพศเดียวกัน แต่ด้วยความมโนอยากได้ลูกอีกนั่นแหล่ะเลยทำให้เลือกซื้อตัวเมียแทนที่จะเป็นตัวผู้เหมือนกัน เมื่อพาตัวเมียกลับบ้าน ก็พยายามปล่อยให้เจอตัวผู้ แต่มันกลับตีกัน เราเลยคิดว่าคงต้องเทียบกรงไปก่อน จนกว่าจะคุ้น แต่จะผ่านไปนานเท่าไหร่ มันก็ไม่คุ้นกันสักที จึงสรุปเองว่าต้องแยกกรงตลอดไป มันอยู่รวมกันไม่ได้ เลยต้องแยกกรง และใช้วิธีการเล่นที่ละตัว ซึ่งคนขายก็แนะนำมาว่ามันชอบเกา ยิ่งแรงยิ่งดี ช่วงแรกๆเกาจนมือเราตะคริวกินไปเลย มันก็ดูทำท่าฟินมาก แต่ถ้าหยุดเกาปุ๊บ จะเริ่มโมโห ปีนหนีจากมือ หลังๆเลยเปลี่ยนเป็นเกาผ่านกรงใช้แค่2นิ้วเกาที่ลำคอ ถูนิ้วขึ้นลงระหว่างคางและคอ แค่นี้มันก็ฟิน แต่หลังๆไม่ต้อง2นิ้วก็ได้ นิ้วเดียวก็ฟินได้ แล้วก็เอามันออกมาเกาบ้าง ท่าที่ชอบคือเอาตัววางบนท่อนแขน หน้าซุกจักแร้แล้วเกามันจะชอบมาก และอีกท่าคือวางบนตักนอนหงายแล้วก็เกายาวจากคอถึงท้องมันก็จะฟิน ความสุขที่ได้เลี้ยงคือมันชอบส่งเสียงร้องทุกครั้งที่กลับบ้าน ถ้าเดินมาหามันจะลุกขึ้นต้อนรับไม่ว่ามันจะหลับอยู่ก็ตาม มันคงได้กลิ่น แล้วถ้าเราไม่เกามันก็จะมาตะกุยข้างกรงเรียกร้องความสนใจ แต่ถ้าเกาให้มันก็จะยิ้มจนเราละลายเลยทีเดียว

kikuberry ถูกใจ, เฮียหมีสีน้ำตาล หลงรัก, นอกหน้าต่างมีแต่หิมะ หลงรัก, ชาละวันแสนดี หลงรัก, Chokin หลงรัก, Jowpaa Cape หลงรัก, รู้ว่าเหนื่อย... ถูกใจ, Xceed Abb หลงรัก,สมาชิกหมายเลข 716036 หลงรัก, ยิ้มมุมปากแล้วชายตามอง ขำกลิ้ง รวมถึงอีก 3 คน ร่วมแสดงความรู้สึก

ความคิดเห็นที่ 2

3.    เมื่อน้องป่วย
เนื่องจากเลี้ยงโดยไม่ศึกษาข้อมูล อาหารเริ่มต้นของน้องคืออาหารกระต่ายทั่วๆไป และหญ้าทิมโมธี แล้ววันนึงก็รู้สึกว่าตอนกอดน้องตัวเมียท้องเหมือนมีลมวิ่งไปวิ่งมาเหมือนที่เราท้องอืดแล้วมีลมในกระเพาะ แต่น้องตัวเมียไม่มีทีท่าอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนป่วย บังเอิญช่วงนั้นน้องตัวผู้มีที่หลังเป็นแผลเพราะโดนน้องตัวเมียกัดตอนพยายามเอามาอยู่ด้วยกัน เลยคิดว่าก็เอาไปหาหมอพร้อมกันไปเลย ทั้งวันนั้นพยายามโทรหาคลินิกแถวชลบุรี แต่ที่ได้มาคือคนรับโทรศัพท์ของคลินิกตะโกนถามกันวุ่นวายว่า แพรี่ด๊อกคือตัวอะไร กว่าจะหาเจอเป็นคลินิกที่พัทยาใต้ ซึ่งบังเอิญว่าวันนั้นมีพี่ที่เลี้ยงแพรี่อยู่มาหาหมอเหมือนกัน พาแพรี่ตัวใหญ่ขนนุ่มฟูมาด้วย เลยได้จับแพรี่ตัวอื่นครั้งแรก ขนมันนุ่มมาก เรางี้ฟินเลย ดีว่ามีพี่เขาช่วยคุณหมอจับเด็กๆของเรา เพราะว่าตัวที่เป็นแผลหมอต้องโกนขนออกแล้วให้ฟอกยาล้างแผลทุกวัน ตอนโดนโกนมันดิ้นแทบตาย ถ้าไม่มีพี่เขาช่วยจับ หมอก็บอกว่าคงลำบากกว่านี้เยอะ ส่วนน้องที่คิดว่าท้องอืด ท้องอืดจริงๆ ถ้าไม่มาหาหมอ เราคงเสียน้องไปภายใน 7 วันแน่ แล้วพี่ที่ร้านหมอวันนั้นก็เป็นคนแนะนำให้รู้ว่าอาหารที่ถูกต้องคือ Oxbowกระต่ายโต กับหญ้าทิมโมธีเท่านั้น อาหารที่กินอยู่มันจะทำให้น้องตายเร็ว เขาเห็นมาเยอะแล้ว แล้วที่สำคัญเลี้ยงแพรี่ต้องหมั่นคอยดูขี้น้อง ขี้ควรเม็ดใหญ่เรียวสีดำ บิดมาต้องเป็นหญ้าเท่านั้น เด็กๆของเราขี้ก้อนเล็ก เกือบกลมด้วยซ้ำ และบิดมาไม่เห็นหญ้าเลย ต้องขอบคุณที่เจอพี่เขาจริงๆ เราเลยเปลี่ยนอาหารให้เด็กๆ และผ่านไปเดือนนึงก็เห็นความแตกต่าง ขี้เป็นแบบปกติที่แพรี่ควรเป็น และขนจากที่หยาบกร้านจนรู้สึกได้ ตอนนี้ก็นุ่มสลวยเหมือนเจ้า2ตัวที่เห็นที่คลินิก

Xceed Abb ถูกใจ

ความคิดเห็นที่ 3

4.    เมื่อจำเป็นต้องหาบ้านใหม่
หลังจากเลี้ยงเด็กไปได้ 3เดือน ตัวเราซึ่งเป็นภูมิแพ้และผื่นผิวหนังอยู่แล้วก็เกิดเป็นผื่นแบบแปลกๆ ตอนแรกเป็นตุ่มยุงกัด แล้วน้องเดินผ่านตุ่มโดยที่ไม่ได้ข่วนอะไร วันต่อมาตุ่มก็กลายร่างเป็นผื่นวงกลม แล้วก็กลายร่างเป็นผื่นปื้นๆ ไปรักษากับหมอ หมอว่าเราเป็นเชื้อแบคทีเรีย โดนฉีดยาไป2อาทิตย์ติด เหมือนจะหายแล้ว เราดันไม่ระวังไปช่วยแฟนตัดเล็บน้องก็โดนข่วนเบาๆที่แผล ผื่นก็ขึ้นมาอีก คราวนี้หมอบอกว่าเป็นแพ้จากภูมิร่างกายตัวเอง ลักษณะเหมือนเริม *-* จะเป็นลม พอรักษาจะหาย เล่นกับน้องเฉยๆไม่ได้โดนข่วน แต่ผื่นก็ขึ้นมาอีกรอบเป็นรอบที่3 ทีนี้ถึงจะเริ่มสงสัยว่าเพราะเชื่อโรคที่น้องนั่นแหล่ะทำให้เป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้เคยเห็นคนที่มาขายน้องแพรี่ในเฟสบุคโดยให้เหตุผลว่าเป็นภูมิแพ้หนัก เรายังแอบหัวเราะเลยว่าเราก็เป็นภูมิแพ้ แต่ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ตอนนี้รู้แล้ว ว่าภูมิแพ้มันไม่เคยหายไปไหน มันแค่รอว่าจะแผลงฤทธิ์ยังไง ซึ่งของเราคือผื่นนั่นเอง และหลังๆเวลาจับน้องมือก็จะรู้สึกบวมๆแสบๆเฉพาะเวลาจับ แต่ถ้าไม่จับก็หายทันทีไม่เป็นอะไรเลย พยายามหลอกตัวเองอยู่เป็นเดือนว่ามันไม่เกี่ยวกะเด็กๆหรอก แต่แล้วผื่นรอบที่ 4 ก็ขึ้นมาทำให้มีความคิดว่าคงต้องหาบ้านใหม่ให้น้องแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจทำอะไร จนผื่นรอบที่ 5 เม็ดแรกขึ้นเท่านั้น เลยต้องตัดใจจริงๆ ผื่นไม่ขึ้นลามไปเรื่อยนะ มันขึ้นอยู่ที่เดิม ถ้าไม่หาย ผิวที่เป็นผื่นก็จะคล้ำลงเรื่อยๆ มันจะจางยากมาก สุดท้ายเลยต้องหาบ้านใหม่ให้น้อง และหาบ้านใหม่ให้กระต่ายกะกระรอกด้วย เพราะกลัวว่ามันก็จะมีส่วนทำให้ผื่นขึ้น ไม่อยากเสี่ยงแล้ว รักษาตัวเองดีกว่า

ตอบกลับ

0

1

Xceed Abb ถูกใจ

∨ดู 7 ความเห็นย่อย∨

ความคิดเห็นที่ 4

หวังว่าเรื่องราวของเราจะเป็นประโยชน์ได้บ้างนะคะ ประสบการณ์ของเราอาจจะไม่ได้น่ากลัวอะไรมาก แต่ก็อยากจะให้เป็นประโยชน์กับคนที่เลี้ยงใหม่ได้บ้าง เพราะเราเริ่มจากศูนย์เลย แล้วไม่มีคนขายคอยดูแลให้คำปรึกษา ต้องลองผิดลองถูกมาเอง อยากแนะนำคนที่คิดจะเลี้ยง อย่าไปซื้อตามจตุจักรเพราะเห็นว่ามันถูก แต่พอเอาเขามาเลี้ยงมันจะไม่มีคนคอยให้คำปรึกษาและไม่มีบริการหลังการขาย ควรซื้อจากคนที่เขาฝึกเชื่องแล้วจะดีกว่า อย่างน้อยก็มีคนคอยคุยด้วยได้ว่าน้องเป็นอะไร มีปัญหาก็มีที่ปรึกษาค่ะ ถ้าใครซื้อมาจากจตุจักรแล้วเลี้ยงอยู่ ไม่มีคนให้ปรึกษาลองติดตามกลุ่มแพรี่ในเฟสบุคดูนะคะ มีหลายกลุ่มเลย เราก็เข้าหมดทุกกลุ่ม นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้เห็นเด็กๆบ้านอื่นด้วยว่าน่ารักแค่ไหนค่ะ

คลิ้กที่นี่

Prairie Dog (แพรี่ด็อก)

สัตว์เลี้ยงที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ของวัยรุ่น นั่นก็คือ ตัวPrairie Dog (แพรรีด็อก)หรือกระรอกดิน ด้วยความหน้าแบ๊วน่ารัก ทำให้เป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นของแดนปลาดิบ และมาจนถึงวัยรุ่นไทย?ด้วย เพราะเจ้าแพรรี่มีลำตัวยืดสูง ทำให้สามารถนำแฟชั่นเสื้อผ้าหลากหลาย ไปสวมใส่แต่งตัวให้กับมันได้ด้วย เหมือนสัตว์เลี้ยงในบ้านทั่วไป…?แพรรีด็อก สัตว์เลี้ยงยอดฮิต เห่าเสียงสุนัข?

Prairie Dog (แพรรีด็อก) หรือ กระรอกดิน

สำหรับชื่อPrairie Dog (แพรรีด็อก)หรือกระรอกดินมาจากที่เจ้าตัวนี้ชอบอาศัยอยู่บริเวณทุ่งหญ้าแพรีในอเมริกาเหนือและเม็กซิโก?และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นที่มาของชื่อ คือ เสียงร้องที่คล้ายกับเสียงสุนัขเห่า เจ้าตัวนี้จึงถูกเรียกชื่อว่า?แพรรีด็อก

ลักษณะโดยทั่วไป คือ มีสีขนสีน้ำตาลทอง ปลายหางมีสีดำ ส่วนของหางมีความยาว 3-4 นิ้ว เท้ามีสีครีม ลำตัวอ้วนกลม ใบหูเล็ก ดวงตากลมโต ฟันแข็งแรง ขาคู่หน้าจะมีเล็บที่แหลมคมและแข็งแรง มีหน้าที่ขุดคุ้ยดินเพื่อหาอาหารและขุดโพรงอยู่อาศัย กินอาหาร อย่าง หญ้า?ผัก?เมล็ดพืชต่าง ๆ รวมถึงแมลงและหนอน แพรรีด็อกเป็นสัตว์สังคม จึงมักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง เวลาที่เจอกันครั้งแรกจะทักทายกันด้วยการยิงฟันและแตะกันคล้ายกับการโอบกอดหรือจูบ จากนั้นก็จะช่วยกันทำความสะอาดขนให้กันและกัน

แพรรีด็อก สัตว์เลี้ยงยอดฮิต เห่าเสียงสุนัข

แพรรีด็อก สัตว์เลี้ยงเห่าเสียงสุนัข

นิสัยของเจ้าแพรรีด็อก หลักๆ 5 ข้อ

1. ต้องการความรัก เพราะหากเราทิ้งมันไว้ตัวเดียวตลอดทั้งวัน ไม่สนใจ จะทำให้มันเกิดความเครียด ต้องหาเพื่อนให้มันเล่นด้วย
2. ชอบกัด แทะ ข้อนี้ต้องเตรียมใจไว้เลย
3. การดุ และสั่งสอนใช้ไม่ได้ผล แม้ว่ามันจะฉลาด แต่ก็ไม่ได้ฟังคำสั่งคนรู้เรื่อง ดังนั้นหากเราดุเสียงดัง หรือทำร้ายมัน มันก็ยิ่งก้าวร้าวกับคุณมากขึ้น
4. มีกลิ่นตัวรุนแรง เพราะตามธรรมชาติมันสื่อสารกันด้วยกลิ่น
5. ต้องการพื้นที่วิ่งเล่น เพื่อไม่ให้มันโดนขัง จนเครียด   แพรี่ด็อกคืออะไร คลิกที่นี่